Countable nouns And Uncountable nouns
Nouns แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Common Nouns และ Proper nouns ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Common Nouns (นามทั่วไป) กันให้เข้าใจมากขึ้น
Common Nouns คือ คำนามสำหรับใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ ความคิด โดยที่คำนามในประเภทนี้ จะไม่ระบุเฉพาะเจาะจงเหมือนกับ Proper nouns
ยกตัวอย่าง เช่น คำว่า man ที่แปลว่าผู้ชาย เป็นคำเรียกรวม ๆ ที่ไม่เจาะจงชัดเจน คำนี้จึงเป็น Common Nouns แต่ถ้ามีการระบุชื่อว่า Jim ที่เป็นชื่อเฉพาะก็จะกลายเป็น Proper nouns
คำว่า month ที่แปลว่าเดือน ไม่ได้ระบุชัดเจนจึงจัดเป็น Common Nouns แต่ถ้าบอกว่า May (เดือนพฤษภาคม) ก็จะอยู่ในประเภท Proper nouns
ประเภทของ Common Nouns
แบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่
1. นามนับได้ ( countable nouns, count nouns )
2. นามนับไม่ได้ ( uncountable nouns )
countable nouns หรือ count nouns
คือ คำนามนับได้ คำว่านับได้ในที่นี้หมายถึงการนับจำนวนของคำนามแต่ละคำ อะไรก็แล้วแต่ที่นับได้จะจัดอยู่ในกลุ่มคำนามทั่วไปประเภทนี้ โดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีรูปร่างก็ได้
ตัวอย่างคำนามนับได้ที่มีรูปร่าง เช่น dog , boy , table เป็นต้น
ตัวอย่างคำนามนับได้ที่ไม่มีรูปร่าง เช่น day , month , year , trip
countable nouns สามารถอยู่ได้ทั้งในรูปเอกพจน์ ( Singular ) หรือ พหูพจน์ ( Plural ) ซึ่งทั้ง 2 มีรายละเอียดดังนี้
1. Singular count nouns (นามนับได้เอกพจน์) คือ นามนับได้ที่มีจำนวนเพียงแค่ 1 เดียว เช่น a book , a woman , a wish , an idea
-นามนับได้เอกพจน์ มีข้อกำหนดในการใช้อยู่ว่าไม่สามารถนำไปใช้โดดเดี่ยวได้ จะต้องมี determiner นำหน้าเสมอ เช่น
the table , that English teacher , a bird , my latest idea
-นำหน้าด้วย quantifier
some new books , a few teachers , lots of good ideas
2. Plural count nouns (นามนับได้พหูพจน์) คือ คำนามนับได้ที่มีจำนวนมากกว่า 1 ขึ้นไป ในภาษาอังกฤษจะมีวิธีระบุให้ทราบว่าคำนามเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1 ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- โดยทั่วไปจะให้วิธี เติม S ข้างหลังคำ
book เป็น books , dog เป็น dogs , friend เป็น friends
- คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s , sh, ss ,ch , x , z จะใช้วิธีเติม -es ข้างหลังคำ
class เป็น classes , watch เป็น watches , gas เป็น gases , wish เป็น wishes , box เป็น boxes
-คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น
lady เป็น ladies , country เป็น countries , party เป็น parties
แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติมเพียง s เช่น
boy เป็น boys , day เป็น days , play เป็น plays
- คำนามที่ลงท้ายด้วย o และหน้า o เป็นพยัญชนะ เติม es เช่น
tomato เป็น tomatoes , hero เป็น heroes
คำนามที่ลงท้ายด้วย o บางคำ ก็เติมแค่ s เพียงอย่างเดียว เช่น
auto เป็น autos , piano เป็น pianos , bamboo เป็น bamboos
- คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe เปลี่ยนให้เป็น v แล้วเติม es เช่น
thief ( ขโมย ) thieves
life ( ชีวิต ) lives
knife ( มีด ) knives
wife ( ภรรยา ) wives
แต่ก็มีคำยกเว้นต่อไปนี้ที่เติมแค่ s
belief ( ความเชื่อถือ) beliefs
dwarf ( คนแคระ ) dwarfs
brief ( สำนวนคดีความ ) briefs
grief ( ความเศร้าโศก ) griefs
chef ( หัวหน้าพ่อครัว ) chefs
gulf ( อ่าว ) gulfs
chief ( หัวหน้า) chiefs
reef (หินโสโครก ) reefs
cliff ( หน้าผา ) cliffs
safe ( ตุ้นิรภัย) safes
- คำที่ทำให้เป็นนามพหุพจน์โดยเปลี่ยนภายในคำ
man ( ผู้ชาย ) men
woman (ผู้หญิง ) women
louse ( เหา,หมัด ) lice
mouse ( หนู ) mice
ox ( วัว ) oxen
foot ( เท้า ) feet
child ( เด็ก ) children
tooth ( ฟัน ) teeth
- คำต่อไปนี้เหมือนกันทั้งรูปพหูพจน์ และ เอกพจน์
aircraft ( เครื่องบิน )
herring ( ปลาเฮอริง )
deer ( กวาง )
species ( ชนิด )
carp ( ปลาคาร์พ )
salmon ( ปลาซาลมอน )
bison ( วัวกระทิง )
corps ( กองร้อย )
fish ( ปลา )
mackerel ( ปลาแมคเคอเรล )
shellfish( สัตว์น้ำที่มีเปลือก )
series ( ชุด )
sheep ( แกะ )
trout ( ปลาเทร้า )
barracks ( โรงเรือนทหาร )
** จะเห็นได้ว่าการแปลงคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีมากมายหลายแบบ ซึ่งการจะรู้ให้ได้ทั้งหมดนั้น ส่วนหนึ่งต้องมาจากการหมั่นสังเกต **
uncountable nouns
คือ นามที่ไม่สามารถนับจำนวนได้ การทำความเข้าใจในส่วนนี้จะต้องทราบก่อนว่า ภาษาอังกฤษใช้วิธีมองสิ่งต่าง ๆ ในภาพรวม จึงมีคำบางประเภทที่ไม่สามารถจะนับได้ เช่น น้ำตาล ,น้ำ เป็นต้น การกระทำต่างๆที่เป็นรูปธรรม( abstract nouns )
ตัวอย่าง uncountable nouns
Concrete : เช่น water, milk, butter, furniture, luggage, iron,equipment,clothing,garbage, junk
Abstract : เช่น anger, courage, satisfaction,happiness,knowledge
ชื่อภาษา: เช่น English,German,Spain
กีฬาต่างๆ : เช่น hockey, football, tennis
ชื่อวิชาต่างๆ : เช่น sociology, medicine, anthropology
กิจกรรมต่างๆ : swimming, eating
อื่นๆ : news, money,mail ,work,homework,gossip, education, weather, difficulty, information,feminism, optimism,machinery,information, research,traffic,scenery,breakfast, accomodation, advice, permission
หลักการใช้ uncountable nouns
1. มีรูปเป็นเอกพจน์ ซึ่งถ้าเป็นการกล่าวถึงโดยทั่วไป และไม่เคยกล่าวมาก่อน ไม่ต้องมีคำ articles (a ,an , the) ใด ๆ นำหน้าทั้งสิ้น
We ate a lot of foods > We ate a lot of food
We bought some new furnitures > We bought some new furniture
That’s a useful information > That’s useful information
2. ทำให้เป็นพหูพจน์ได้โดยบอกจำนวนตามภาชนะที่บรรจุ กลุ่ม น้ำหนัก และลักษณะนาม เช่น
two cups of water, three pieces of information, five patches of sunlight
three games of hockey, two lumps of sugar
I need two lumps of sugar for my coffee. ฉันกินกาแฟต้องใส่น้ำตาล 2 ก้อน
We ate a lot of foods > We ate a lot of food
2. ทำให้เป็นพหูพจน์ได้โดยบอกจำนวนตามภาชนะที่บรรจุ กลุ่ม น้ำหนัก และลักษณะนาม เช่น
two cups of water, three pieces of information, five patches of sunlight
three games of hockey, two lumps of sugar
I need two lumps of sugar for my coffee. ฉันกินกาแฟต้องใส่น้ำตาล 2 ก้อน
**นอกจากนี้ยังมีคำ nouns ที่เป็นได้ทั้ง Countable และ Uncountableคำนามบางคำสามารถเป็นได้ทั้งนามนับได้และนามนับไม่ได้ แล้วแต่การใช้ เช่น
abuse ( ใช้ในทางที่ผิด )
faith ( ความเชื่อ )
nature ( ธรรมชาติ )
adulthood ( ความเป็นผู้ใหญ่)
fear ( ความกลัว)
paper ( กระดาษ )
afternoon ( ตอนบ่าย )
fiction ( เรื่องอ่านเล่น )
passion ( หลงไหล )
age ( อายุ )
film ( ภาพยนต์ )
people ( ประชาชน )
anger ( ความโกรธ )
fish ( ปลา )
personality ( บุคลิกภาพ )
appearance ( สิ่งที่ปรากฏแก่ตา )
flavor ( กลิ่น )
philosophy ( ปรัชญา )
art ( ศิลปะ )
food ( อาหาร )
power ( พลัง )
beauty ( ความสวย )
friendship ( ความเป็นเพื่อน )
reading ( การอ่าน )
beer ( เบียร์ )
fruit ( ผลไม้ )
religion ( ศาสนา )
belief ( ความเชื่อ )
glass ( แก้ว )
revision ( การทบทวน )
breakfast ( อาหารเช้า )
government ( รัฐบาล )
rock ( หิน )
cheese ( เนยแข็ง)
hair ( ผม )
science ( ศาสตร์,วิทยาศาสตร์ )
chicken ( ไก่ )
history ( ประวัติศาสตร์ )
school ( โรงเรียน )
childhood ( ความเป็นเด็ก )
innocence ( ความไร้เดียงสา )
shock ( ตกใจ งงงวย )
college ( วิทยาลัย )
jail ( คุก )
society ( สังคม )
competition ( การแข่งขัน )
jealousy ( ความอิจฉา)
sorrow ( ความเศร้าโศก)
crime ( อาชญากรรม )
language ( ภาษา)
space ( ที่ว่าง )
culture ( วัฒนธรรม )
law ( กฏหมาย )
speech ( สุนทรพจน์ )
death ( ความตาย )
liberty ( เสรีภาพ)
spirit ( วิญญาณ, จิตใจ )
divorce ( การหย่าร้าง )
life ( ชีวิต)
stone ( หินมีค่า )
disease ( โรค)
love ( ความรัก )
strength ( ความเข้มแข็ง )
drama ( บทละคร )
lunch ( อาหารกลางวัน )
teaching ( การสอน )
duck ( เป็ด )
man ( คน )
temptation ( สิ่งล่อ ยั่วยวนใจ)
education ( การศึกษา)
marriage ( การแต่งงาน )
theater ( โรงละคร)
environment ( สิ่งแวดล้อม )
meat ( เนื้อสัตว์)
theory ( ทฤษฎี )
evening ( ตอนเย็น)
metal ( โลหะ )
time ( เวลา)
exercise ( แบบฝึกหัด ออกกำลัง)
milk ( นม )
trouble ( ปัญหา )
fact ( ความจริง)
morning ( ตอนเช้า )
wine ( เหล้าองุ่น )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น